ถ้วยกระดาษ BIO คืออะไรและมีความแตกต่างอย่างไร

ทำไมบรรจุภัณฑ์รักษ์โลกจึงกลายเป็นทางเลือกหลักของธุรกิจ?

เมื่อผู้บริโภคในปัจจุบันหันมาใส่ใจสิ่งแวดล้อมมากขึ้น บรรจุภัณฑ์ที่ย่อยสลายได้หรือเป็นมิตรต่อโลกจึงกลายเป็น ทางเลือกเชิงกลยุทธ์ ของร้านอาหาร คาเฟ่ และธุรกิจเดลิเวอรี เพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่ดี และตอบสนองความต้องการของกลุ่มลูกค้ายุคใหม่ โดยหนึ่งในตัวเลือกที่กำลังได้รับความนิยม คือ ถ้วยกระดาษ BIO

ถ้วยกระดาษ BIO คืออะไร?

ถ้วยกระดาษ BIO คือถ้วยที่ผลิตจากกระดาษฟู้ดเกรด แล้วเคลือบด้วย พลาสติกชีวภาพ (Bioplastic) ซึ่งได้จากพืชธรรมชาติ เช่น ข้าวโพด อ้อย หรือมันสำปะหลัง โดยใช้สารประเภท PLA (Polylactic Acid) แทนพลาสติกจากปิโตรเลียม เช่น PE ทำให้สามารถ ย่อยสลายได้ในระบบเฉพาะ (เช่น โรงงานปุ๋ยหมักอุตสาหกรรม)

จุดเด่นหลักของถ้วย BIO คือการลดการพึ่งพาพลาสติกปิโตรเลียม และลดผลกระทบระยะยาวต่อสิ่งแวดล้อม

เปรียบเทียบคุณสมบัติ: ถ้วย BIO vs ถ้วยกระดาษทั่วไป

ถ้วยกระดาษ BIO แตกต่างจากถ้วยกระดาษทั่วไป (ส่วนใหญ่คือถ้วยกระดาษเคลือบ PE) หลักๆ คือ วัสดุที่ใช้เคลือบภายใน ซึ่งส่งผลต่อความสามารถในการย่อยสลายและการรีไซเคิล และมีคุณสมบัติที่ต่างกัน ดังนี้

ข้อจำกัดที่ควรรู้ของถ้วย BIO

แม้จะเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น แต่ถ้วย BIO ก็ยังมีข้อจำกัดบางประการ:

• ต้องการการย่อยสลายใน โรงงานอุตสาหกรรม (Industrial Composting) ไม่สามารถย่อยได้ในธรรมชาติทั่วไป หรือถังขยะในบ้าน
• ถ้วย BIO ไม่ควรทิ้งรวมกับขยะทั่วไป เนื่องจากต้องเข้าสู่ระบบย่อยสลายเฉพาะ ไม่สามารถย่อยได้ในธรรมชาติ
• ต้นทุนการผลิตสูงกว่า ถ้วยเคลือบ PE จึงอาจมีราคาสูงกว่าในตลาด
• ความแข็งแรงและความทนทาน ในบางกรณี ถ้วย BIO อาจมีความแข็งแรงและความทนทานน้อยกว่าถ้วย PE

เทรนด์และความนิยมในตลาดไทย และระบบจัดการหลังใช้งาน

ในประเทศไทย ความตระหนักด้านสิ่งแวดล้อมของผู้บริโภคเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ความต้องการบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เช่น ถ้วยกระดาษ BIO เติบโตอย่างรวดเร็ว โดยมีปัจจัยสำคัญดังนี้:​

แนวโน้มการใช้งานถ้วย BIO ในประเทศไทย

• ความต้องการของผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้น: ผลสำรวจจาก PwC ในปี 2024 พบว่า 58% ของผู้บริโภคชาวไทยเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ที่ยั่งยืน และยินดีจ่ายเพิ่มเฉลี่ย 11.7% เพื่อสินค้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยโลก ​
• การสนับสนุนจากภาครัฐ: รัฐบาลไทยได้ดำเนินการตามแผนปฏิบัติการจัดการขยะพลาสติกแห่งชาติ ฉบับที่ 2 (2565–2570) เพื่อส่งเสริมการใช้บรรจุภัณฑ์ที่ย่อยสลายได้และลดการใช้พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียว
• การตอบสนองจากภาคธุรกิจ: บริษัทในอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม เช่น APP Group ได้เปิดตัวแบรนด์บรรจุภัณฑ์ที่ยั่งยืน เช่น Foopak และ Enza เพื่อตอบสนองต่อความต้องการของตลาดที่เพิ่มขึ้น

ระบบจัดการขยะหลังใช้งาน: ความจริงที่ต้องเข้าใจ

แม้ถ้วย BIO จะมีคุณสมบัติย่อยสลายได้ แต่ระบบจัดการหลังใช้งานในประเทศไทยยังมีข้อจำกัดหลายประการ:

• ขาดแคลนโรงงานย่อยสลายอุตสาหกรรม (Industrial Composting Facilities): ปัจจุบันประเทศไทยยังไม่มีโรงงานย่อยสลายอุตสาหกรรมที่สามารถรองรับการย่อยสลายของ PLA ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ​
• การแยกขยะต้นทางที่ไม่เพียงพอ: ผู้บริโภคส่วนใหญ่มักทิ้งขยะรวมกัน โดยไม่ได้แยกถ้วย BIO ออกจากขยะเปียกหรือรีไซเคิลอื่น ๆ ทำให้การจัดการขยะหลังใช้งานเป็นไปได้ยาก .
• ความเข้าใจของผู้บริโภคที่จำกัด: หลายคนเข้าใจผิดว่า “ถ้วย BIO สามารถทิ้งได้เหมือนเศษอาหาร” หรือ “ย่อยสลายได้ในถังขยะบ้าน” ซึ่งไม่ถูกต้องในทางเทคนิค .​
• การรีไซเคิลที่ยังไม่รองรับ: ถ้วย BIO ไม่สามารถเข้าสู่โรงงานรีไซเคิลพลาสติกหรือกระดาษทั่วไปได้ เพราะจะปนเปื้อนกระบวนการและลดคุณภาพวัตถุดิบรีไซเคิล

สรุป

ถ้วยกระดาษ BIO คือทางเลือกใหม่ที่ตอบโจทย์ความยั่งยืน ด้วยวัสดุชีวภาพที่สามารถย่อยสลายได้ในระบบเฉพาะ แม้จะมีต้นทุนสูงกว่าและต้องการระบบจัดการที่ดี แต่ก็เหมาะสำหรับธุรกิจที่ต้องการ สร้างภาพลักษณ์รักษ์โลกอย่างจริงจัง อย่างไรก็ตาม การเลือกใช้งานควรอยู่บนพื้นฐานของ ความเข้าใจระบบจัดการหลังใช้งานและความพร้อมในพื้นที่ เพื่อให้เกิดผลจริง ไม่ใช่เพียงแค่ “รักษ์โลกแบบผิดวิธี”

แหล่งอ้างอิง

1. Thailand Waste Management Academy:
   seedstars.com – Thailand Waste Program
2. 6Wresearch – Thailand Disposable Paper Cup Market Outlook (2025–2031):
   6Wresearch Thailand Cup Market
3. BASF – Biodegradable Paper Soup Cups:
   BASF – Chinaplas

สนใจ ถ้วยกระดาษ ได้มาตรฐาน พร้อมส่งตรงถึงมือคุณ เพียงแอดไลน์ @sajjapack เพื่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม หรือสั่งซื้อกับแอดมินได้แล้ววันนี้