ในยุคที่โลกหันมาใส่ใจสิ่งแวดล้อมมากขึ้น พลาสติกชีวภาพ (Bioplastic) กลายเป็นตัวเลือกยอดนิยมสำหรับผู้บริโภคและผู้ประกอบการ โดยเฉพาะ PLA (Polylactic Acid) ที่มักถูกใช้กับบรรจุภัณฑ์ เช่น แก้วน้ำ หลอด ถุง หรือภาชนะใช้แล้วทิ้ง ซึ่งถูกโปรโมทว่าเป็น “พลาสติกที่ย่อยสลายได้” แต่ความจริงเบื้องหลังนั้นอาจไม่ตรงกับภาพที่หลายคนเข้าใจ
PLA คืออะไร?
PLA (Polylactic Acid) คือพลาสติกที่ผลิตจากทรัพยากรชีวภาพ เช่น แป้งข้าวโพด มันสำปะหลัง หรืออ้อย โดยผ่านกระบวนการทางชีวเคมี เช่น การหมักน้ำตาลให้ได้กรดแลกติก แล้วนำมาสังเคราะห์เป็นเม็ดพลาสติก PLA
ข้อดีของ PLA ได้แก่:
- ไม่ใช้ปิโตรเลียมเป็นวัตถุดิบ
- ลดการปล่อยคาร์บอน
- ดูเหมือนเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
แต่คำถามคือ PLA จะเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมได้จริงหรือไม่ เมื่อเข้าสู่กระบวนการจัดการหลังการใช้งาน?
ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับการย่อยสลายของ PLA
หลายคนเข้าใจผิดว่า PLA สามารถย่อยสลายได้เองตามธรรมชาติเหมือนเศษอาหาร แต่ความจริงแล้ว PLA ต้องอยู่ในสภาวะที่ควบคุมได้ เช่น โรงย่อยสลายแบบอุตสาหกรรม (Industrial Compost Facility) ที่มีอุณหภูมิและความชื้นที่เหมาะสม ถึงจะย่อยสลายได้ในเวลาที่รวดเร็ว
เงื่อนไขในการย่อยสลายของ PLA
1. สภาพแวดล้อม:
- PLA จะย่อยสลายได้ทางชีวภาพอย่างมีประสิทธิภาพเฉพาะในสภาพแวดล้อมที่ควบคุมได้ในโรงย่อยสลายแบบอุตสาหกรรม (Industrial Composting Facility) เท่านั้น
- สภาพแวดล้อมที่เหมาะสมคือ อุณหภูมิสูงกว่า 60 องศาเซลเซียส และมีความชื้นสูง
2. ระยะเวลา:
- ภายใต้สภาวะที่เหมาะสมในโรงย่อยสลายแบบอุตสาหกรรม PLA จะย่อยสลายได้ภายใน 2–6 เดือน
- หากอยู่ในสภาวะธรรมชาติทั่วไป PLA จะไม่ย่อยสลายได้ง่าย และอาจใช้เวลานานหลายสิบปี หรือไม่ย่อยสลายเลย
3. ปัจจัยเร่งการย่อยสลาย:
- การย่อยสลาย PLA จำเป็นต้องอาศัยจุลินทรีย์เฉพาะที่พบได้ในโรงย่อยสลายแบบอุตสาหกรรมเท่านั้น ซึ่งจุลินทรีย์เหล่านี้จะช่วยเร่งกระบวนการย่อยสลายให้สมบูรณ์ภายในระยะเวลาสั้น
ไม่สามารถย่อยได้ในธรรมชาติทั่วไป
แม้จะถูกโปรโมทว่า “เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม” แต่หาก PLA ถูกทิ้งในธรรมชาติ เช่น:
- ในดินธรรมดา
- ทะเลหรือแหล่งน้ำ
- ถังขยะทั่วไป
จะไม่ย่อยสลายเร็วอย่างที่เข้าใจ อาจต้องใช้เวลานานหลายสิบถึงหลายร้อยปี เช่นเดียวกับพลาสติกปิโตรเลียมบางชนิด และในบางกรณี PLA อาจเสื่อมสภาพเป็นไมโครพลาสติก หากไม่มีเงื่อนไขที่เหมาะสมสำหรับการย่อยสลาย
PLA รีไซเคิลได้หรือไม่?
PLA ไม่สามารถรีไซเคิลรวมกับพลาสติกทั่วไป เช่น PET, PP, PE ได้ เพราะ:
- จะปนเปื้อนในกระบวนการรีไซเคิล
- ส่งผลให้พลาสติกที่รีไซเคิลได้คุณภาพต่ำลง
- ระบบรีไซเคิลทั่วไปในประเทศไทยยังไม่สามารถแยก PLA ได้ชัดเจน
ดังนั้น PLA ที่ไม่ได้ถูกจัดการแยกเฉพาะจะกลายเป็น “ขยะที่รีไซเคิลไม่ได้” และต้องถูกฝังกลบแทน
แนวทางจัดการขยะ PLA สำหรับผู้บริโภค
เพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างแท้จริง ผู้บริโภคสามารถเริ่มได้จากสิ่งเล็ก ๆ ดังนี้
1. เช็กก่อนซื้อ
- อย่าเชื่อคำว่า “ย่อยสลายได้” ทันที ควรดูว่ามีข้อมูลว่าเป็น PLA หรือไม่ และย่อยสลายได้ใน “โรงหมักอุตสาหกรรม” เท่านั้น
2. อย่าทิ้งรวมกับขยะทั่วไป
- PLA ไม่ควรทิ้งรวมกับพลาสติกอื่น หรือขยะรีไซเคิล เพราะจะทำให้ขยะทั้งหมดเสียหาย
3. แยกเก็บไว้ต่างหาก
- ถ้าไม่มีที่รับทิ้งเฉพาะ ควรแยก PLA ไว้เพื่อหาวิธีกำจัดที่เหมาะสม เช่น ส่งคืนให้ร้านค้าที่ใช้บรรจุภัณฑ์นั้น
4. ไม่ทิ้งลงดิน ทะเล หรือขยะเปียก
- PLA จะไม่ย่อยในธรรมชาติ ต้องใช้เครื่องจักรและอุณหภูมิสูงถึงจะสลายได้
5. หลีกเลี่ยงหากไม่สามารถแยกขยะได้
- ถ้าไม่แน่ใจว่าจะกำจัดได้ถูกวิธี ควรหลีกเลี่ยง และหันไปใช้ภาชนะที่ใช้ซ้ำได้แทน
6. ช่วยบอกต่อ
- คนจำนวนมากยังเข้าใจผิดเกี่ยวกับ PLA การบอกข้อมูลที่ถูกต้องจะทำให้ทุกคนช่วยกันดูแลสิ่งแวดล้อมได้ดียิ่งขึ้น
PLA เป็นวัสดุทางเลือกที่ดี แต่จะดีจริงก็ต่อเมื่อเรามีระบบจัดการหลังการใช้งานที่เหมาะสม ผู้บริโภคมีบทบาทสำคัญในการแยกทิ้งอย่างถูกวิธี เลือกใช้เมื่อจำเป็น และช่วยกันเผยแพร่ความเข้าใจที่ถูกต้อง
ตัวเลือกที่ดีกว่าบรรจุภัณฑ์ PLA
1. บรรจุภัณฑ์จากชานอ้อย (Bagasse)
- ผลิตจากกากอ้อยที่เหลือจากกระบวนการผลิตน้ำตาล เป็นวัสดุธรรมชาติที่ปลอดภัย ไม่มีสารเคมีตกค้าง
- ย่อยสลายได้ในธรรมชาติภายใน 45–90 วัน โดยไม่ทิ้งสารพิษหรือไมโครพลาสติก
ตัวอย่างบรรจุภัณฑ์: กล่องอาหาร จาน ชาม ฝาครอบ
2. ถ้วยกระดาษคราฟท์ฟู้ดเกรด เคลือบ Bio-Coating
- ผลิตจากเยื่อไม้ธรรมชาติ ไม่ผ่านการฟอกขาว และเคลือบด้วยสารชีวภาพแทนพลาสติก PE
- สามารถย่อยสลายได้ในธรรมชาติโดยไม่ทิ้งไมโครพลาสติก และไม่ปนเปื้อนในระบบรีไซเคิล
ตัวอย่างบรรจุภัณฑ์: ถ้วยกาแฟ ถ้วยน้ำเย็น ถ้วยไอศกรีม
3. บรรจุภัณฑ์จากไม้ธรรมชาติ
- ทำจากวัสดุเช่น ไม้ไผ่ ไม้เบิร์ช หรือกระดาษคราฟท์ ใช้ในการผลิตช้อน ส้อม หลอด และกล่องอาหาร
- สามารถย่อยสลายได้ในธรรมชาติ 100% และไม่สร้างไมโครพลาสติก
ข้อควรระวัง: อาจมีข้อจำกัดด้านความแข็งแรงหรือระยะเวลาใช้งาน ขึ้นอยู่กับรูปแบบการใช้งาน
สรุป
พลาสติก PLA แม้จะถูกมองว่าเป็นวัสดุทางเลือกที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม แต่ในความจริงแล้ว PLA จะย่อยสลายได้เฉพาะเมื่ออยู่ในโรงย่อยสลายอุตสาหกรรมเท่านั้น จึงจะย่อยสลายได้ภายในไม่กี่เดือน หากถูกทิ้งในธรรมชาติ จะไม่ย่อยสลายง่ายและอาจกลายเป็นขยะที่จัดการได้ยาก นอกจากนี้ PLA ยังไม่สามารถรีไซเคิลรวมกับพลาสติกทั่วไปได้ ดังนั้นควรเลือกใช้วัสดุที่ย่อยสลายได้ง่ายกว่า เช่น ชานอ้อย, กระดาษคราฟท์เคลือบ Bio-Coating, หรือ วัสดุจากไม้ธรรมชาติ ซึ่งตอบโจทย์ทั้งการใช้งานและการดูแลสิ่งแวดล้อมได้ดียิ่งขึ้น
การเลือกใช้บรรจุภัณฑ์จึงไม่ควรดูแค่คำว่า “ย่อยสลายได้” แต่ต้องพิจารณาว่ามีระบบจัดการหลังการใช้งานรองรับหรือไม่ เพื่อให้สิ่งที่เลือกใช้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอย่างแท้จริง
แหล่งอ้างอิงข้อมูล
พลาสติก PLA ทิ้งยังไง
- https://wasteorshare.com/pla-plastic/
Polylactic acid synthesis, biodegradability, conversion to microplastics and toxicity
- https://link.springer.com/article/10.1007/s10311-023-01564-8